ที่1ของผู้ให้บริการเน็ตบ้านแห่งปี BROADBAND TELECOM COMPANY OF THE YEAR
เอไอเอส ไฟเบอร์ เป็นผู้ให้บริการเน็ตบ้านรายเดียวในไทยที่ได้รับรางวัลในปีนี้ โดยเป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของนวัตกรรมและ
การให้บริการที่ยอดเยี่ยม ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมเน็ตบ้านไทย ยกระดับการให้บริการ ที่พร้อมดูแลแก้ไขปัญหาด้านการใช้งานใน 24 ชั่วโมง
พร้อมนวัตกรรมความเร็วเน็ตบ้านสูงสุด 2Gbps รายแรกในไทย รวมทั้งการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ร่วมกับเราท์เตอร์ เสริมศักยภาพและความสามารถ ในการส่งสัญญาณ
รวมไปถึง WiFi อัจฉริยะ ที่สามารถจัดสรรความเร็วการใช้งานให้สอดรับกับพฤติกรรม ที่หลากหลากหลายของผู้บริโภคในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านต่อ
ทั้งลูกค้า AIS Fibre และ ลูกค้า 3BB
อย่างที่ได้เกริ่นว่า ผู้ให้บริการติดตั้งเน็ตบ้านเรานั้นมี 5 ค่ายใหญ่ๆ ดังนี้ครับ 3BB, CAT Telecom, TOT, AIS Fibre, และ True แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกค่ายจะสามารถติดเน็ตบ้านความเร็ว สูงให้กับบ้านทุกหลังได้ เนื่องจากแต่ละค่ายมีการเข้าถึงพื้นที่ที่แตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องทราบก่อนว่า ในละแวกใกล้เคียงบ้านเรานั้น มีผู้ให้บริการของค่ายไหนอยู่ บ้าง โดยสามารถติดต่อไปยังผู้ให้บริการแต่ละเจ้าได้โดยตรงเลยครับ อย่างข้อโดดเด่นของ AIS เน็ตบ้าน AIS 3BB Fibre3 คือ เรารวมกันเพื่ออนาคตที่มากกว่าเพื่อคุณ มีเขตการติดตั้งที่มากกว่าทั่ว ประเทศไทย
หลังจากที่ทราบว่ามีผู้ให้บริการของค่ายไหนแล้ว เรามาตรวจสอบเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตชนิดไหนที่รองรับอยู่ ถ้าหากมีสาย Fiber แล้วก็สามารถติดตั้งได้เลย ซึ่งข้อดีของสาย Fiber คือ เมื่อฝนตกฟ้าร้องก็ไม่มีผลกับสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่ถ้าหากละแวกที่เราอยู่อาศัย เทคโนโลยีนี้ยังไปไม่ถึง ก็อาจจะต้องรอ หรือติดตั้งแบบอื่นทดแทนกันไปก่อน เช่น ADSL เป็นต้น
ถ้าหากในละแวกที่เราอยู่อาศัยนั้นมีการติดเน็ตของหลายๆ เจ้า เราสามารถสอบถามเพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจของเราได้ เช่น อินเทอร์เน็ตค่ายนั้นในละแวกนั้นมีความเสถียรจริงหรือไม่ สัญญาณหลุดหายบ่อยหรือไม่ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากละแวกนั้นมีการใช้งานของค่ายไหนเยอะ ก็อาจทำให้คู่สายเต็มได้เช่นกัน จึงจำเป็นต้องสอบถามไปยังผู้ให้บริการก่อน
ในการจะเลือกติดเน็ตบ้านหรือเน็ตคอนโดความเร็วสูงนั้น ขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการใช้งานของเรา หากใครที่มักจะมีกิจกรรมในการใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตอยู่เป็นประจํา อาทิ เล่นเกม, สตรีมหนัง, ใช้ทํางานด้านออนไลน์ ก็ถือว่าค่อนข้างมีความจําเป็น จะให้ความเร็วในการใช้งานที่มากกว่าทั้งแบบต่อสายแลน และการเชื่อมต่อแบบ Wifi(ไวไฟ) แต่ถ้าหากเราไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ หรือเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะเลือกต่ออินเทอร์เน็ตจากมือถือผ่าน Hot Spot แทนได้ ซึ่งจะไม่ทําให้เสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน
สําหรับการติดเน็ตบ้านหรือเน็ตคอนโดเทคโนโลยี Fiber Optic ในปัจจุบันนั้น มีความเร็วเริ่มต้นตั้งแต่ 50 MB และสูงสุดไปจนถึง 1 Gbps เลยทีเดียวครับ (การเชื่อมต่อแบบไวไฟ (Wifi) จะ ให้ความแรงของสัญญาณตามระยะการใช้งาน) แต่เราไม่จําเป็นว่าต้องเลือกความเร็วสูงๆ เสมอไป เราอาจจะพิจารณาจากสมาชิกในครอบครัวของเรามีความจำเป็นจะใช้งานอินเทอร์เน็ตกันอย่างไรบ้าง ครอบครัวไหนที่มีสมาชิกน้อยหรืออยู่คนเดียว (1-2 คน) และไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบโลดโผนมากนัก ก็อาจจะติดเน็ตด้วยแพ็กเกจเริ่มต้นเบาๆ ของแต่ละค่าย ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งปัจจุบันก็มีเน็ตบ้านราคาถูกให้เลือกมากมาย แต่ถ้าหากท่านใดที่มักจะเข้าเว็บดูคลิป ดาวน์โหลดวิดีโอ สตรีมหนัง หรือเล่นเกม และใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 1 เครื่อง ก็อาจจะต้องเพิ่มความเร็วขึ้นมาตามลำดับความต้องการ ซึ่งแต่ละค่ายก็มีการเสนอแพ็กเกจ และโปรโมชันที่แตกต่างกันไป
พิเศษสำหรับลูกค้าที่ติดตั้งเน็ตบ้าน AIS รายเดือน สามารถเช็กสปีดเน็ตปัจจุบัน (Speed Test AIS) และปรับสปีดอินเทอร์เน็ต (Speed Toggle) ให้แรงกว่าเดิม ไม่มีค่าใช้จ่าย ทำได้เองฟรี! ตลอด 24 ชม.
สำหรับค่ายโทรศัพท์มือถือที่ให้บริการติดเน็ตบ้านหรือเน็ตคอนโดความเร็วสูงด้วยนั้นมี 2 เจ้า คือ True และ AIS Fibre โดยทั้งสองเจ้าจะมีโปรโมชันควบคู่เมื่อเราใช้งานโทรศัพท์มือถือ เดียวกับอินเทอร์เน็ตบ้าน ซึ่งถ้าหากใครอยากจะลดค่าใช้จ่ายบางส่วน เราก็อาจจะเอาข้อนี้ไปเป็นข้อพิจารณาในการติดเน็ตบ้านได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่ละค่ายก็ยังแข่งขันกันด้วยโปรโมชัน และบริการเสริมอื่นๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า อาทิ ช่องรับสัญญาณโทรทัศน์เพิ่มเติมอีกหลายๆ ช่อง บริการโทรศัพท์บ้าน เป็นต้น อย่างไรก็ตามก็ควรจะสอบถามถึงความจำเป็นในการใช้งานของตนเองด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าการติดตั้งช่องรับสัญญาณโทรทัศน์ไปพร้อมๆ กับการติดตั้งเน็ตบ้านก็จะได้ราคา แพ็กเกจที่ถูกลง แต่หากเราเป็นผู้ที่ชื่นชอบการท่องโลกอินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว เราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปติดตั้งช่องรับสัญญาณโทรทัศน์เพิ่มเติม เพราะต้องเสียค่าใช้จ่าย เพิ่มโดยใช่เหตุนั่นเอง แต่ถ้าหากภายในบ้านมีสมาชิกในครอบครัวกันเยอะ และมีการใช้งานโทรทัศน์กันอยู่แล้วก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะติดเน็ตแบบแพ็กเกจใหญ่ไปเลย